การเลือกใช้ตาข่ายกรองแสงที่เหมาะสมกับพืชต่างๆ

การเลือกใช้ ตาข่ายกรองแสง ที่เหมาะสมกับพืชต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พืชเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมแสงแดดอย่างเหมาะสม โดยการเลือกตาข่ายกรองแสงที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเจริญเติบโตของพืช และป้องกันการเกิดความร้อนเกินไปที่อาจทำให้พืชเสียหายได้

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกใช้ตาข่ายกรองแสงสำหรับพืช

1. เปอร์เซ็นต์การกรองแสง

   • ตาข่ายกรองแสง 30-50%   เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการแสงแดดปานกลาง เช่น พืชที่เจริญเติบโตในสภาพอากาศที่ร้อนและต้องการการกรองแสงบางส่วน เช่น พืชในพื้นที่ร้อน หรือพืชในโรงเรือนที่ไม่ต้องการแสงแดดจัดเกินไป
   • ตาข่ายกรองแสง 50-70%   เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการการกรองแสงปานกลาง เช่น พืชที่เติบโตในสภาพอากาศร้อน หรือในพื้นที่ที่มีแสงแดดแรง พืชบางประเภทที่ทนต่อแสงแดดสูง เช่น มะเขือเทศ หรือพริก จะได้รับประโยชน์จากการกรองแสงในช่วงบ่าย
   • ตาข่ายกรองแสง 70-90%   ใช้สำหรับพืชที่ต้องการการกรองแสงสูง เช่น พืชที่ไม่ทนต่อแสงแดดจัด เช่น ผักใบเขียว (ผักกาด, ผักโขม) หรือพืชที่ต้องการแสงอ่อนๆ เพื่อป้องกันการเกิดอุณหภูมิสูงเกินไป

2. ประเภทของพืชและความต้องการแสง

   • พืชที่ชอบแสงแดดเต็มที่ (Full Sun Plants)   พืชประเภทนี้จะต้องการแสงแดดเต็มที่ เช่น มะเขือเทศ, พริก, แตงกวา ควรใช้ตาข่ายกรองแสงที่มีเปอร์เซ็นต์กรองแสงต่ำ (ประมาณ 30-50%) เพื่อไม่ให้มีแสงมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้พืชเติบโตได้ไม่เต็มที่
   • พืชที่ชอบแสงแดดปานกลาง (Partial Sun Plants)   เช่น มะเขือยาว, โหระพา หรือผักชีลาว ควรใช้ตาข่ายกรองแสงที่มีเปอร์เซ็นต์กรองแสงประมาณ 40-60% เพื่อให้ได้แสงที่เหมาะสมในการเจริญเติบโต
   • พืชที่ชอบร่ม (Shade Plants)   พืชบางชนิดที่ต้องการแสงน้อย ควรเลือกใช้ตาข่ายกรองแสงที่มีการกรองแสงสูงประมาณ 60-80% เพื่อช่วยให้พืชไม่โดนแสงแดดโดยตรงที่อาจทำให้เกิดความร้อนสูงและพืชเหี่ยวเฉา                                       

3. สภาพภูมิอากาศ

   • ในพื้นที่ที่มีแดดแรงหรืออุณหภูมิสูง   การใช้ตาข่ายกรองแสงที่กรองแสงมากจะช่วยลดการสะสมความร้อนในพื้นที่ปลูก ลดการเครียดจากแสงแดดและทำให้พืชสามารถเติบโตได้ดีขึ้น
   • ในพื้นที่ที่มีแสงแดดไม่ค่อยจัดหรืออุณหภูมิไม่สูง   การใช้ตาข่ายกรองแสงที่กรองแสงน้อยจะช่วยให้พืชได้รับแสงแดดมากขึ้น เพื่อการเจริญเติบโตที่ดี

4. การควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือน

   • สำหรับโรงเรือนที่ไม่ใช้เครื่องปรับอากาศ   การใช้ตาข่ายกรองแสงช่วยลดการสะสมความร้อนจากแสงแดดที่มีความเข้มข้นสูง โดยการกรองแสงให้พืชได้รับแสงเพียงพอและมีอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต
   • การใช้ตาข่ายกรองแสงในฤดูร้อน   ในช่วงฤดูร้อนที่มีแสงแดดแรง การใช้ตาข่ายกรองแสงที่มีการกรองแสงสูงจะช่วยลดการเสียหายจากการโดนแดดจัดและรักษาความชุ่มชื้นในดิน

5. การเลือกวัสดุของตาข่ายกรองแสง

   • ตาข่ายกรองแสงที่ทำจากวัสดุพลาสติก: มีความคงทนและสามารถใช้งานได้นาน โดยมักใช้สำหรับพืชในโรงเรือนหรือการปลูกพืชในพื้นที่เปิด
   • ตาข่ายกรองแสงที่ทำจากวัสดุไนลอนหรือโพลีเอทิลีน: มักจะมีความยืดหยุ่นสูงและสามารถทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนหรือฝนได้ดี

เคล็ดลับในการใช้งานตาข่ายกรองแสง

• ควรติดตั้งตาข่ายกรองแสงในตำแหน่งที่สามารถปรับระดับการกรองแสงได้ตามความต้องการ เช่น ใช้ตาข่ายกรองแสงที่สามารถปรับได้หรือมีหลายชั้น
• หากใช้ตาข่ายกรองแสงในโรงเรือน ควรพิจารณาเลือกใช้ตาข่ายกรองแสงที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศและรังสียูวี
• ควรทำการทดสอบและตรวจสอบการเติบโตของพืชในช่วงเวลาต่างๆ ของปีเพื่อปรับระดับการกรองแสงตามความเหมาะสม

การเลือกใช้ตาข่ายกรองแสงที่เหมาะสมกับพืชต่างๆ เป็นการทำให้พืชได้รับแสงที่มีคุณภาพและปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป ซึ่งจะช่วยให้พืชเติบโตได้ดีและป้องกันความเสียหายจากแสงแดดจัดเกินไป ตาข่ายกรองแสงที่เหมาะสมจะช่วยให้การปลูกพืชในโรงเรือนหรือพื้นที่ปลูกกลางแจ้งมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส แลน กันแดด , ส แลน กรอง แสง , ส แลน , ตาข่าย กันแดด , ตาข่าย กรอง แสง , ส แลน เขียว , ส แลน กันแดด ราคา , ส แลน กันแดด 100 เมตร ราคา , ราคา ส แลน กันแดด , ผ้า ส แลน , ส แลน สี ขาว , ส แลน กันแดด 80 เปอร์เซ็นต์ , ส แลน สี เขียว , ผ้า ส แลน กันแดด , ส แลน กันแดด 80 ราคา , ส แลน บัง แดด , ส แลน ราคา เมตร ละ , ส แลน ดำ , ส แลน กันแดด 80 , ส แลน กันแดด 80 ราคา เมตร ละ , ส แลน ราคา , ราคา ส แลน , ส แลน เขียว ราคา , ตาข่าย พราง แสง , ตาข่าย บัง แดด , ส แลน กันแดด สี ขาว , ราคา ส แลน เขียว , ส แลน กันแดด ต้นไม้

อัปเดต 02/28/2025  4:38:20 PM