ขั้นตอนการใช้งาน สีโป๊วพลาสติก

สีโป๊ว หรือ สีโป๊วพลาสติก คือวัสดุที่มีบทบาทสำคัญในการปรับสภาพพื้นผิวก่อนการพ่นสีหรืองานตกแต่งขั้นสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นงานยานยนต์ งานไม้ หรือแม้แต่งานก่อสร้าง การเข้าใจ “ขั้นตอนการใช้งานสีโป๊ว” อย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผลงานออกมาสวย เรียบ และทนทานยิ่งขึ้น

สีโป๊วคืออะไร?

สีโป๊ว คือวัสดุที่ใช้ในการอุดหรือเติมเต็มพื้นผิวที่ไม่เรียบ เช่น รอยบุบ รอยขีดข่วน หรือรูพรุนต่าง ๆ โดยมีลักษณะเป็นเนื้อพลาสติกหนืด เมื่อลงบนพื้นผิวแล้วจะเซ็ตตัวแน่นและสามารถขัดแต่งให้เรียบได้ จึงนิยมใช้ก่อนการพ่นสีเพื่อให้พื้นผิวเรียบเนียน ไม่มีตำหนิ

ประเภทของสีโป๊ว

แม้ว่าคำว่า “สีโป๊ว” จะเรียกรวมกัน แต่ในความจริงแล้วมีหลายชนิด แบ่งตามวัตถุประสงค์และวัสดุที่ใช้ เช่น:

1. สีโป๊วพลาสติก (Plastic Putty) – ใช้ในงานรถยนต์และงานโลหะทั่วไป มีความแข็งแรง ยึดเกาะดี แห้งไว

2. สีโป๊วไม้ (Wood Filler) – เหมาะกับงานไม้ เติมรอยแตกร้าว รูกบ

3. สีโป๊วผนัง (Wall Putty) – ใช้กับงานผนังปูน เช่น ผนังบ้านหรือฝ้าเพดาน

4. สีโป๊วเกาะเหล็ก – มีคุณสมบัติพิเศษในการยึดเกาะกับโลหะโดยเฉพาะ

ขั้นตอนการใช้งานสีโป๊วพลาสติกอย่างถูกวิธี

1. เตรียมพื้นผิวให้พร้อม

ก่อนใช้งานสีโป๊ว ควรทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากสิ่งสกปรก ฝุ่น น้ำมัน หรือคราบไข เพื่อให้สีโป๊วยึดเกาะได้ดีที่สุด โดยขั้นตอนมีดังนี้:

• ล้างหรือขัดคราบสนิม ฝุ่น และสิ่งสกปรกออก

• หากเป็นโลหะ ใช้น้ำยา degreaser เช็ดคราบน้ำมัน

• ขัดกระดาษทรายเบอร์ 80–120 เพื่อเพิ่มการยึดเกาะ

2. ผสมสีโป๊วกับตัวเร่ง (Hardener)

สีโป๊วพลาสติก มักมาเป็นกระป๋องพร้อมตัวเร่งแยกต่างหาก ต้องผสมให้เข้ากันก่อนใช้งาน โดยอัตราส่วนทั่วไปคือ:

• สีโป๊ว 100 ส่วน

• ตัวเร่ง 2–3 ส่วน (ตามคำแนะนำจากผู้ผลิต)

ขั้นตอน:

• ใช้ไม้พายหรือเกรียงปาดสีโป๊วออกจากกระป๋องลงบนแผ่นผสม

• เติมตัวเร่งตามอัตราส่วน แล้วผสมให้เข้ากันจนเนื้อสีโป๊วเนียน

3. การโป๊ว

เมื่อผสมสีโป๊วเรียบร้อยแล้ว ให้รีบลงมือโป๊วทันที (ภายใน 5–10 นาที) เพราะสีโป๊วจะแข็งตัวเร็ว

• ใช้เกรียงโป๊วหรือไม้พายเกลี่ยสีโป๊วให้แนบกับผิว

• ปาดซ้ำ ๆ จนแน่นและเรียบ อย่าให้มีโพรงอากาศ

• ปาดให้บางแต่พอดี หลีกเลี่ยงการโป๊วหนาเกินจำเป็น เพราะจะแตกลายภายหลัง

4. รอให้แห้ง

โดยปกติสีโป๊วพลาสติกจะแห้งภายใน 20–30 นาที (ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและตัวเร่ง) หลังจากนั้นจะสามารถขัดตกแต่งได้

5. ขัดแต่งพื้นผิว

หลังสีโป๊วแห้งสนิท ให้ขัดแต่งพื้นผิวให้เรียบและสวยงามก่อนทำสีจริง

• เริ่มจากกระดาษทรายเบอร์ 120–180

• หากต้องการความเรียบละเอียด ใช้เบอร์ 320 ต่ออีกครั้ง

• ลูบผิวด้วยมือลองเช็กความเรียบ ถ้ายังไม่พอ ให้โป๊วซ้ำแล้วขัดอีก

6. ทำความสะอาดก่อนพ่นสี

ก่อนลงสีจริง ให้เช็ดพื้นผิวที่ขัดแล้วด้วยผ้าสะอาดหรือผ้าชุบน้ำยาล้างแว็กซ์ เพื่อขจัดฝุ่นหรือผงขัดที่ค้างอยู่ เพื่อให้สีเกาะผิวได้ดี และไม่เกิดรอยฟองหรือหลุดล่อนในภายหลัง

ข้อควรระวังในการใช้งานสีโป๊ว

1. อย่าใช้สีโป๊วโดยไม่ผสมตัวเร่ง

2. หลีกเลี่ยงการโป๊วหนาเกิน 3 มม. ในครั้งเดียว

3. ควรทำงานในที่อากาศถ่ายเท ไม่ชื้นหรือร้อนจัด

4. หลีกเลี่ยงการเก็บสีโป๊วในที่ร้อนจัด เพราะจะทำให้เนื้อเสีย

5. หากโป๊วในหลายรอบ ควรให้ชั้นล่างแห้งก่อน

วิธีเก็บรักษาสีโป๊ว

เพื่อให้สีโป๊วมีอายุการใช้งานนานที่สุด ควรเก็บไว้ในที่แห้ง อุณหภูมิไม่เกิน 35°C และปิดฝาให้สนิททุกครั้งหลังใช้งาน ห้ามโดนแสงแดดหรือเก็บใกล้เปลวไฟโดยเด็ดขาด

การใช้งาน สีโป๊ว ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่รู้จักขั้นตอนการเตรียมพื้นผิว ผสมให้ถูกสัดส่วน และขัดแต่งอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ชิ้นงานของคุณสวย เรียบ และทนทานมากยิ่งขึ้น หากคุณกำลังมองหาสีโป๊วคุณภาพดี ที่ใช้แล้วไม่ผิดหวัง เลือกใช้สินค้าจาก PK GROUP ได้เลย

สั่งซื้อ คลิกเลย 
สีโป๊วพลาสติก สีโป๊วแดง ATM

#สีโป๊วปูน#ปูนโป๊วผนัง#เคมีโป๊วปูน#สีโป๊ว#โป้ปูน#สีโป้วปูน#โป้วปูน#เคมีโป๊ว#ปูนโป้ว#เคมีโปว์ปูน#ปูนโป้วผนัง#สีโป๊วปูน#สีโป้ปูน#เคมีโป้วผนัง#เคมีโปว์ผนัง#เคมีโปว์ผนัง bosny wall putty#โปว์ผนัง#ปูนโป๊วรอยแตกร้าว##PKhardward#ร้านขายส่งวัสดุอุปกรณ์ PKhardware#PKhardware ฮาร์ดแวร์#PKhardware

โพสต์เมื่อ 04/04/2025 11:38:00 AM